
นับถอยหลัง เหลือเวลาอีก 1 วันก่อนการเลือกตั้งที่ทั้งโลกกำลังจับตามอง “การเลือกตั้งประธานาธบดีสหรัฐอเมริกา 2020” ที่จะเกิดขึ้นภายในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 (GMT-5) นี้ มาส่องดูคะแนนเสียงจากประชาชนชาวอเมริกัน กันว่า อยากให้ใครขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ในรอบนี้เป็นที่น่าจับตามองของสื่อและประชาชนทั่วโลก เพราะผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี คือ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนปัจจุบัน และ โจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดี มือขวา บารัก โอบามา

ทำความรู้จักผู้รับเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
จากนักธุรกิจสู่การนั่งเก้าอี้ตำแหน่ง ปธน. สหรัฐ “โดนัลด์ ทรัมป์”
ในวาระที่ผ่านมาทรัมป์ได้เริ่มเปิดตัวกับนโยบายหาเสียงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับชาตินิยม และมีวลีติดปากอยู่สักพักในขณะนั้นคือ “Make America Great Again” ซึ่งต่อมา นโยบายนี้กลับถูกผลักดัน พลิกโผโดยประชาชน ทำให้เขาได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีในวาระปัจจุบัน เพราะชาวอเมริกันส่วนใหญ่เริ่มไม่พอใจในการบริหารงานของรัฐบาลโอบามาที่ไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม กล่าวคือพวกเขาต้องการ “การเปลี่ยนแปลง”
ทรัมป์ได้เปิดศักราชของตนเองโดยการกล่าวดูถูก Non-American อย่างเปิดเผย เช่น กล่าวหาคนเม็กซิกันว่าพวกเขาคืออาชญากรข่มขืน หรือรวมไปถึงการกีดกันชาวแอฟริกันโดยออกปากไล่พวกเขาให้ออกนอกประเทศ ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่รวมถึงทั่วโลกต่างไม่พึงพอใจกับวุฒิภาวะของผู้นำคนนี้มากนัก
อีกทั้งยังเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทั่วโลกได้เกิดการระบาดหนักของโรคระบาดโควิด-19 และสหรัฐ ฯ เองคือหนึ่งในประเทศที่มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากที่สุดในโลก ตามมาด้วยเศรษฐกิจที่ถดถอยลง แต่ โดนัลด์ ทรัมป์ เองก็ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ และจัดสรรงบประมาณให้แก่รัฐต่าง ๆ เพื่อใช้หยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรค และได้รับการยอมรับจากคนในประเทศว่าเป็นการรับมือที่ดี
ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ จึงออกนโยบายหาเสียงเกี่ยวกับการกอบกู้เศรษฐกิจ เพิ่มการจ้างงาน ปกป้องผลประโยชน์ทางการค้าของชาติ และสานต่อนโยบายที่เข้มงวดด้านการย้ายถิ่นฐาน โดยยังยึดหลัก “America First” อยู่เหมือนเดิม
ผู้เข้าชิงฝ่ายตรงข้าม อดีตรอง ปธน. “โจ ไบเดน” แห่งพรรคเดโมแครด

นักการเมืองผู้คร่ำหวอดที่คลุกคลีอยู่ในวงการการเมืองสหรัฐ ฯ มามากกว่าครึ่งชีวิต ซึ่งตำแหน่งทางการเมืองล่าสุดของโจคือการเข้ารับตำแหน่งรองประธานาธิบดีให้กับ บารัก โอบามา ตั้งแต่ปี 2009 ถึง 2017
ตลอดการดำรงตำแหน่ง ปธน. ของ โดนัลด์ ทรัมป์ โจ ไบเดน ก็ได้ออกมาให้ความเห็นตรงกันข้ามเกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาลทรัมป์เสมอ ไม่ว่าจะเป็น การไม่เห็นด้วยกับนโยบายกีดกันการย้ายถิ่นฐาน การบริหารงานที่คล้ายเผด็จการ รวมไปถึงการลอบสังหารนายพลในซีเรีย
นโยบายหาเสียงของไบเดนจึงออกมา ในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับทรัมป์ และยังมีกลิ่นอายตามแบบของพรรคเดโมแครด ซึ่งจะเน้นไปในทางประณีประนอมระหว่างผู้คนต่างเชื้อชาติกับชาวอเมริกัน และยังชูนโยบายสิทธิการรักษาพยาบาลเหมือนกับรัฐบาลสมัยโอบามา นอกจากนี้ โจ ไบเดน ยังกล่าวว่าเขาจะยืนหยัดต่อสู้เพื่อคนงานที่ “สร้างประเทศนี้” และค่านิยมที่จะประสานรอยร้าวจากการแบ่งแยกในสังคม
เปิดโผ คะแนนเสียงจากประชาชน ใครจะอยู่ ใครจะไป
จากการเก็บรวบรวมข้อมูลคะแนนเสียงของหลายสำนักทั่วประเทศ พบว่า ไบเดน มีคะแนนนิยมอยู่ที่ประมาณ 52% และทรัมป์มีคะแนนนิยมอยู่ที่ 43% ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่สารมารถตัดสินได้ว่าใครจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำสหรัฐ ฯ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะการเลือกตั้งของสหรัฐ ฯ ใช้ระบบ “คณะผู้เลือกตั้งประธานาธิบดี” แต่ละรัฐจะมีจำนวนเสียงคณะผู้เลือกตั้งมากน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนประชากรในรัฐ ดังนั้นแม้คนที่ได้คะแนนเสียงมากกว่าก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้ขึ้นมารับตำแหน่งประธานาธิบดีเสมอไป
14 รัฐใหญ่ ที่มีผลต่อการชนะเลือกตั้ง
- จอร์เจีย
- เท็กซัส
- นอร์ทแคโรไลนา
- นิวแฮมป์เชียร์
- เนวาดา
- เพนซิลเวเนีย
- ฟลอริดา
- มิชิแกน
- มินนิโซตา
- วิสคอนซิน
- เวอร์จิเนีย
- แอริโซนา
- โอไฮโอ
- ไอโอวา
ค่าเฉลี่ยผลโพลล์ล่าสุดในแต่ละรัฐ ไบเดน และ ทรัมป์ มีคะแนนเสียงสูสีกันมาก โดย ไบเดน มีคะแนนนำในรัฐมิชิแกน เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน ในขณะที่ปีนี้ รัฐที่เคยสนับสนุนทรัมป์ให้ชนะการเลือกตั้งในปี 2016 ไม่ว่าจะเป็นรัฐไอโอวา โอไฮโอ และเท็กซัส กลับมีคะแนนเสียงให้กับโจ ไบเดน มากขึ้น
อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งครั้งนี้ก็ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าใครจะได้เก้าอี้ ปธน. ไปครอง เพราะอย่างกรณีการเลือกตั้งเมื่อปี 2016 ที่ ฮิลลารี่ คลินตัน ได้คะแนนโหวตมากกว่าทรัมป์ถึง 3 ล้านเสียง แต่เป็นทรัมป์เสียเองที่ชนะการเลือกตั้งในครั้งนั้นไป ดังนั้นจึงควรใช้วิจารณญาณในการอ่านโพลล์ในแต่ละสำนัก

Ref :
โพลล์เลือกตั้งสหรัฐ https://www.bbc.com/thai/international-53678134
นโยบายทรัมป์ https://www.bbc.com/thai/international-54071849
นโยบายไบเดน https://www.bbc.com/thai/international-54151862
ประวัติโจไบเดน https://en.wikipedia.org/wiki/Joe_Biden